เป็นโรคที่เกิดจากการจู่โจมของโรคปวดข้อเฉียบพลันอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่บริเวณนิ้วหัวแม่เท้าหรือที่ข้อต่ออื่นๆของผู้ป่วย  โรคเก๊าท์มีการสะสมตัวของกรดยูริครอบๆข้อต่อต่างๆ  บางคนอาจเกิดเป็นนิ่วในไตหรือเป็นโรคไตและอาจเป็นสัญญาณบอกเหตุของไตวาย  ความดันโลหิตสูง  โรคหัวใจ  โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

                เก๊าท์ตรวจวัดได้โดยดูระดับของกรดยูริคในเลือดสูง ซึ่งกรดยูริคนี้เป็นของเสียที่เกิดจากกระบวนการเมตาโบลิซึ่มของไตผิดปกติจะเป็นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง  การกินอาหารต่างๆที่มีพิวรีนสูง (FURINEเป็นสารตั้งต้นของกรดยูริค)  เช่น ปีกไก่-เป็ด  ผิวหนังของสัตว์ปีก  เครื่องในสัตว์ทุกชนิด  ในเนื้อสัตว์  ปลาซาดีน ถั่วต่างๆ  ผักปวยเล้ง  ยอดอ่อนของผักบางชนิด(สะตอ ชะอมฯ) รวมทั้งเต้าหู้ซึ่งมีโปรตีนและแคลเซียมสูง  จะทำให้เป็นโรคเก๊าท์  แล้วควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์(โดยเฉพาะเบียร์) เพราะไปเพิ่มระดับกรดยูริคเกิดการกำเริบเฉียบพลันและควรหลีกเลี่ยงน้ำตาลฟอกขาว  น้ำตาลฟรุกโตสและซูโครสจะเพิ่มระดับกรดยูริคได้

                การรักษาในแพทย์แผนปัจจุบัน  มักเน้นไปในด้านการให้ยาแก้อักเสบและการใช้ยาไปยับยั้งหรือยาสลายกรดยูริค  เช่น ยา COLCHICINES  ในเวลารู้สึกปวด  ยา ALLOPURINOLและ PROBENECID เพื่อช่วยลดระดับกรดยูริค  มิได้เป็นการแก้ไขโรคเก๊าท์ที่ต้นเหตุ  การกินยาระยะยาวโดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลงการกินจึงไม่สามารถรักษาโรคเก๊าท์ได้  มีแต่การเปลี่ยนแปลงการกินจึงจัดการต้นเหตุแห่งโรคได้  ต้นเหตุที่เกิดกรดยูริคคือกระบวนการเมตาโบลิซึมของไตผิดปกติ  จึงต้องแก้ไขที่ไตจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

วิธีการดูแลและป้องกัน

อาหารที่ควรงดหรือหลีกเลี่ยง

                ต้องงดกินอาหารที่ทำให้เลือดมีภาวะเป็นกรดชั่วคราว

-                   ห้ามกินอาหารที่มีพิวรีนสูง

-                   ห้ามกินเนื้อสัตว์และนมวัวเพราะโปรตีนจากเนื้อสัตว์และนมวัวมีความเป็นกรดสูง ทำให้ไตทำงานหนักและเสื่อมเร็ว  ไม่สามารถขับกรดยูริคได้หมดจึงไปสะสมเป็นผลึกกรดยูริคตามข้อต่อต่างๆ

-                   ห้ามกินอาหารทะเล  เช่นกุ้ง  หอย  ปู  อาหารพวกนี้มีพิวรีนสูง  ปลากินได้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

-                   ห้ามกินถั่วและเต้าหู้  เพราะเป็นโปรตีนมีความเป็นกรดสูง  แต่ถั่วเพาะงอกมีคุณสมบัติเป็นด่าง  จะลดอาการปวดข้อได้โดยเฉพาะ  ถั่วดำงอกจะดีมาก(ช่วยบำรุงไต)ถั่วแดงก็ดี  หรือถั่วเพาะงอกต่างๆ  แต่ควรกินสัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง

-                   อาหารที่ผ่านความร้อนสูงจากการ ปิ้ง  ย่าง ทอด  น้ำมันผ่านความร้อนสูงจะเกิดอนุมูลอิสระ  เป็นภาระแก่ร่างกาย

-                   ห้ามดื่มน้ำอัดลม  ชา  กาแฟ  และแอลกอฮอล์  มีน้ำตาลสูง เป็นภาระไตต้องทำงานหนัก

-                   ไม่กินอาหารที่ทำจากแป้งขาว  เช่น ขนมต่างๆ  เบเกอรี่  ซาลาเปาๆ  อาหารพวก  นี้เป็นกรดและยังมีน้ำมันอันตรายแฝงอยู่

อาหารที่ทำให้เลือดเป็นกรด  ถ้าผู้ป่วยโรคเก๊าท์งดได้ชั่วคราว  3-4  เดือนจะเห็นอาการดีขึ้น

แบบชัดเจน  และทำให้ได้ภายในระยะเวลา 1 ปี จะช่วยแก้ต้นเหตุของโรคเก๊าท์ได้อย่างถูกต้อง  เพราะเป็นการช่วยร่างกายขับและสลายกรดยูริคออกได้และให้ดูแลสุขภาพไต(ในรายละเอียดโรคไต)โรคเก๊าท์จะหายไปแบบถาวร

อาหารที่ควรทาน

-                   ดื่มน้ำสะอาดวันละ  8-10  แก้ว

-                   ดื่มน้ำสมุนไพร(ในรายละเอียดโรคไต “องค์รวมแพทย์แผนไทย”)  จะช่วยขับปัสสาวะและสลายกรดยูริค  หรือดื่มน้ำมะนาว 1 ลูกคั้นใส่น้ำ 1 แก้ววันละ 4 ครั้ง (เท่ากับมะนาววันละ 4 ลูก)ดื่มติดต่อกันภายใน 7 วัน

-                   กินมะขามป้อมวันละ 10 ลูก ถ้ากินยากก็นำไปปั่นรวมกับน้ำมะนาวกับหน่อไม้ฝรั่ง  กินติดต่อกันภายใน 7 วัน เพราะมะขามป้อมมีวิตามินซีสูงมากช่วยในการขับกรดยูริคในเลือดได้ 1-3 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร  หน่อไม้ฝรั่งมีกรดฟอลิคสูงการสลายตัวของกรดฟอลิคจะไปยับยั้งเอนไซม์แซนทีน  ออกซิเดส  ซึ่งเป็นเอนไซม์ผลิตกรดยูริค  วิตามินซีจะส่งเสริมการสลายตัวของกรดฟอลิค

-                   กรดไขมันสายกลาง+กระเทียม+โอเมก้า3(ดูรายละเอียดเรื่องกระเทียม)

-                   ผักสด,ผลไม้มีเอนไซม์เพิ่มพลังชีวิต

และควรขับถ่ายให้ได้วันละ 3 ครั้งจะช่วยลดพิษที่ตับกับไตได้