โรคไต (ตอนที่ 2 )
บทบาทกรดอะมิโนช่วยอาการไตวายเรื้อรัง
กรดอะมิโนแอลคาร์นิทีน
ผู้ป่วยโรคไตส่วนใหญ่จะขาดกรดอะมิโนในตัวนี้ เพราะผู้ป่วยที่ฟอกไตจะสูญเสียคาร์นิทินในการฟอกไตทุกครั้ง กรดอะมิโนคาร์นิทีนมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญไขมันให้เกิดพลังงาน กล้ามเนื้อหัวใจ จะได้พลังงานจากไขมันต้องพึ่งพาคาร์นิทิน เพื่อเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังแก่เซลล์กล้ามเนื้อ หากผู้ป่วยสูญเสียหรือขาดแคลน อาจจะเกิดอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นผิดปกติได้
ฉะนั้นผู้ป่วยต้องได้รับการเสริมอาหารคาร์นิทีนคาร์นิทีนเป็นสารประกอบสังเคราะห์ได้จากกรดอะมิโน 2 ชนิด คือ ไลซีน และเมธไทโอนีนไลซีนมีอยู่มากในเนื้อปลา ไข่ บริเวอร์ยีสต์ ซีส ฯลฯ และในผลไม้มะขามป้อมจะมีมาก ส่วนเมธไทโอนีน มีอยู่มากใน กระเทียม หัวหอม ไข่ ปลา โยเกิร์ตฯ ถ้าเราไม่ทานเสริมอาหาร ก็ควรหาอาหารโปรตีนที่มี ไลซีน/เมธไทโอนีน เป็นสารอาหารตั้งต้นของคาร์นิทีนแทน
หรือใช้กรดไขมันสายกลางที่มีอยู่ในน้ำมันมะพร้าวที่สามารถให้พลังานเซลล์ได้ทันที หรือใช้ โคเอ็นไซม์ Q10 สามารถเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงานได้เช่นกัน ทำให้เซลล์ที่-อ่อนแอมีการฟื้นตัวและกลับมาทำงานเป็นปกติได้มากขึ้น
กรดอะมิโนแอล-ไลซีน
- มีความสำคัญมากในการสร้างโปรตีนเพื่อการเจริญเติบโต
- ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- สร้างสารภูมิต้านทาน ฮอร์โมน และเอมไซม์ต่างๆมากมาย
- ช่วยเปลี่ยนกรดไขมันให้พลังงาน(ถ้าใช้รวมกับเมธไทโอนีนจะเป็นสารตั้งต้นของคาร์นิทีน)
- ช่วยการดูดซึมแคลเซียม ป้องกัน/รักษาโรคกระดูกพรุน
- ป้องกันเส้นเลือดฝอยที่ตาแดงแตก
- ลดอาการเกิดโรคเริม
มีอยู่มากในอาหาร ไข่ เนื้อปลา บริวเวอร์ยีสต์ฯ
กรดอะมิโนเมธไทโอนีน
มีหน้าที่ช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน เป็นกรดอะมิโนที่มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบเช่นเดียวกับกรดอะมิโน ซิสเตอีน จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมาก ลดการทำลายของอนุมูลอิสระที่ไตและร่างกาย
- ช่วยลดอาการบวมขับน้ำที่คั่งอยู่ในเนื้อเยื่อ
- ช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษ/อนุมูลอิสระ
- ช่วยลดระดับสารอีสตามีนในเลือดรักษาอาการโรคจิตเภทบางชนิด
- ลดระดับโคเลสเตอรอล
- ช่วยขับฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกิน
- ช่วยป้องกันเนื้องอกบางชนิด ถ้ารับประทานร่วมกับโคลีนและกรดโฟลิก
- มีมากในอาหารประเภท กระเทียม หัวหอม ไข่ ปลา โยเกิร์ตฯ
กรดอะมิโนซิสเตอีน
เป็นกรดอะมิโนที่มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ เป็นสารตั้งต้นของกลูต้าไธโอน
- ช่วยขัดขวางและป้องกันพิษจากโลหะหนัก บุหรี่ สุรา รังสีเอกซ์ฯ
- ช่วยในการเผาผลาญอาหาร
- ช่วยลดอนุมูลอิสระที่ไตและร่างกาย
- ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส ลดการผลิตเมลานินของผิว
มีมากในอาหารประเภท กระเทียม หัวหอม หอมหัวใหญ่ฯ
กรดอะมิโนกลูตามีน
มีหน้าที่ให้พลังงานแก่สมองช่วยกำจัดแอมโมเนียส่วนเกินที่จะไปทำลายสมอง และเปลี่ยนแอมโมเนียให้เป็นกลูตามีนทำให้กรดกลูตามิกสูงขึ้น หากขาดกลูตามีน จะทำให้สมองขาดกรดกลูตามิก และที่สำคัญกลูตามีนเป็นสารตั้งต้นของกลูต้าไธโอนฯเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้เกือบทุกเซลล์ของร่างกาย หากขาดกลูตามีนย่อมขาดกลูต้าไธโอนด้วย
- ลดการทำลายอนุมูลอิสระที่ไตและร่างกาย
- ช่วยเพิ่มโก๊รธฮอร์โมนในร่างกาย
- สร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- ช่วยเพิ่มไอคิว ให้กับสมองๆทำงานดีขึ้น
มีมากใน เนยแข็ง(ชีส) โยเกิร์ต ผักโขม กะหล่ำปลี เนื้อสัตว์ฯ
กรดอะมิโนอาร์จินีนและอาร์นิทีน
เป็นกรดอะมิโนที่เกี่ยวกับการหลั่งโก๊รธฮอร์โมนๆจะหลั่งออกมาเวลาหลับ ออกกำลังกาย ระดับโก๊รธฮอร์โมนจะลดลงเมื่อเราอายุมากขึ้น อายุ 50 ปีขึ้นไปจะลดหรือหยุดการผลิต แต่การทานอาหารมีส่วนช่วยยกระดับโก๊รธฮอร์โมนเพิ่มขึ้นได้ตัวเสริมสร้างโกร๊ธออร์โมนได้แก่ กรดอะมิโนอาร์จินีนออร์นิทีนกลูตามีน ทริปไตแฟน ไกลซีน ไทโรซีนกรดอะมิโนทั้งหมดจะทำงานร่วมกันดีกว่าทำงานแยกกันเป็นตัวๆและยังมี วิตามินซี วิตามินบี6 บี3 สังกะสี แคลเซียม แมกนีเซียม โดยทั้งหมดจะร่วมกันผลิตโก๊รธฮอร์โมน
โก๊รธฮอร์โมนดีอย่างไร
- ช่วยลดปริมาณยูเรียในเลือดและปัสสาวะ
- ช่วยเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานแก่เซลล์
- เพิ่มความต้านทานโรค ต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ส่งเสริมความแข็งแรงกระดูก/กล้ามเนื้อ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- ช่วยลดระดับ LDL/ลดความดันโลหิตสูง
- ช่วยเลือดไปเลี้ยงไตมากขึ้น
กรดอะมิโนอาร์จินีนและออร์นิทีนมีมากในอาหาร ถั่ว ธัญพืช เนื้อสัตว์ และอาหารโปรตีนสูงทุกชนิด
สารอาหารช่วยผู้เป็นไตวายเรื้อรัง
กรดไขมันสายกลาง+กระเทียม+โอเมก้า3(LINOLENIC) ดูรายละเอียดหน้า
สารอาหารทั้งหมดจะช่วยให้หน่วยของไตทำงานดีขึ้น มีเลือดไปเลี้ยงหน่วยไตมากขึ้น ช่วยกำจัดสารพิษที่ตกค้างในร่างกายมากขึ้น ทำให้อนุมูลอิสระน้อยลง ในเลือดมีไขมันตัวดี HDL เพิ่มขึ้น ช่วยลดระดับของ LDL ไตรกลีเซอไรด์ให้น้อยลงซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดต่างๆ และยังช่วยบรรเทาอาการผิวหนัง เช่น แห้ง คล้ำ คัน ตกสะเก็ด ให้ทุเลาลงมีผิวพรรณดีขึ้น
วิตามินและเกลือแร่
วิตามินบี6 วิตามินบี3(ไนอาซิน) วิตามินซี วิตามินD3 สังกะสี แคลเซียม แมกนีเซียม โดยทั้งหมดจะไปกระตุ้นการหลั่งโก๊รธฮอร์โมน ช่วยเพิ่มระดับโก๊รธฮอร์โมนในร่างกายซึ่งมีผลดีกับไตและร่างกายอย่างมากมาย
วิตามินบี6 - ผู้ป่วยโรคไตมักจะขาดวิตามินตัวนี้ ซึ่งช่วยอัตราการทำงานของไตเพิ่มขึ้น ช่วยสร้างแอนติบอดี้และเม็ดเลือดแดงและดูดซึมโปรตีนดีขึ้น
วิตามินบี3 - ช่วยการไหลเวียนของเลือดขยายหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ลดความดันโลหิต เพิ่มการเผาผลาญไขมันและอาหาร
วิตามินซี - เป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีประสิทธิภาพสูง ช่วยสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆต่อชีวิตให้เซลล์ทำให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น(มะขามป้อมมีวิตามินซีสูงที่สุด)
วิตามินD3 - ช่วยการดูดซึมแคลเซียม/ฟอสฟอรัส ลดอาการกระดูกพรุน
แคลเซียม - เป็นแร่ธาตุขี้เหงาต้องร่วมกับวิตามินดี3และแมกนีเซียม ถึงจะเพิ่มการดูดซึมของแคลเซียมสู่กระดูกได้ดี ช่วยกระดูกแข็งแรง ลดอาการกระดูกเสื่อม/กระดูกพรุน/กระดูกหักและบาง
แมกนีเซียม - ช่วยการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน ช่วยลดความเครียด
สังกะสี - เป็นแร่ธาตุที่คอยควบคุมให้การทำงานในร่างกายดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซ่อมบำรุงระบบเอมไซม์และเซลล์ต่างๆมีความสำคัญต่อการสร้างโปรตีนและคอลลาเจน เป็นส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระเช่น SOD (ซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส)
น้ำมันโอเมก้า 3 (งาขี้ม้อน,ปลา)
งาขี้ม้อนจะมีโอเมก้า 3 สูงถึง 60% ขณะที่น้ำมันปลามีอยู่ 30% จึงสามารถเลือกใช้ได้ทั้ง 2 ชนิด ประโยชน์ของ OMEGA 3 จะช่วยลดไขมันในเลือดลดไตรกลีเซอไรด์ ลดการอักเสบของไต ลดปัสสาวะมีไข่ขาว เพิ่มการหมุนเวียนของเลือดได้ดี ถ้ากินร่วมกับกรดไขมันสายกลาง (น้ำมันมะพร้าว)จะเพิ่ม LCAT ได้ 152% ซึ่งมีผลต่อการเพิ่ม HDL (ไขมันตัวดี) ในกระแสเลือดอย่างมากเท่ากับลดการอักเสบในเลือด ไขมันในเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัวลดการเสื่อมของไตและเซลล์ต่างๆ สิ่งสำคัญจะเพิ่ม OMEGA 3 ในร่างกายและลดOMEGA 6 ในร่างกาย การอักเสบในระดับเซลล์สาเหตุของโรคร้ายต่างๆจะน้อยลง(ดูรายละเอียดหน้า)
กรดไขมันสายกลาง(น้ำมันมะพร้าว)+กระเทียม (ดูรายละเอียดหน้า)
กรดอัลฟ่าไลโปอิคประกอบไปด้วยกรดไขมันสายกลาง+ซัลเฟอร์ เป็นสารกำจัดอนุมูลอิสระทรงพลัง ช่วยลดของเสียในร่างกายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เพราะผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ฟอกไต จะมีของเสียที่ไหลเวียนเลือดอยู่ในกระแสเลือดสูง ทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย และผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเวลาฟอกไตจะมีกรดอะมิโนแอลคาร์นีทีนซึ่งมีหน้าที่เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานหลุดออกไปในขณะฟอกด้วย จึงทำให้เกิดอาหารอ่อนเพลียหลังการฟอกไตทุกครั้ง ตรงจุดนี้กรดไขมันสายกลางจะไปช่วยแก้ไขโดยให้พลังงานแก่เซลล์ทันทีจึงไม่เกิดอาการอ่อนเพลีย และกรดไขมันสายกลางยังเป็นอาหารคีโตนจีนิกอีกทางหนึ่งด้วย(ดูรายละเอียดหน้า)
น้ำมันตับปลา
จะอุดมไปด้วยวิตามิน D ซึ่งมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังจะมีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน บาง แตก หักง่ายวิตามินDจากน้ำมันตับปลาจะช่วยได้เป็นอย่างดีและยังไปช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกายอีกทาง ผิวหนังที่แห้งดำคล้ำและคันจะทุเลาลงด้วย